VI Mania


ลงทุนสุขใจ ไม่อาศัยโชค

ในปัจจุบันการลงทุนในหุ้นสามัญ
เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้มีเงินออม
เพื่อการเพิ่มค่าของปริมาณเงินในบัญชี
ที่ลดค่าลงจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทุกปี

จนถึงวันนี้ยังมีผู้สนใจลงทุน
ในหุ้นสามัญเป็นจำนวนที่น้อยมาก
สิ้นสุดปี 2560 มีจำนวนบัญชีหุ้น
อยู่เพียงหนึ่งล้านกว่าบัญชี

ในจำนวนนี้มีทั้งนักลงทุนสายเทรด
หรือ Technical Investor
ที่มีการซื้อขายเป็นประจำ
ซึ่งก็ต้องศึกษาเรื่องการพล็อตกราฟ
จะเป็น MACD, RSI, กราฟแท่งเทียน
ก็ตามความถนัด
ซึ่งไม่ยากที่จะศึกษาจากตำรา

นักลงทุนอีกประเภท
ที่เรียกกันว่า Value Investor - VI
หรือนักลงทุนในหุ้นคุณค่า
จะมุ่งเน้นผลตอบแทนจากหุ้นปันผล
โดยจะศึกษาพื้นฐานของหุ้น
ผลประกอบการ
และอัตราส่วนเงินปันผลรายปี
สร้างรายได้ให้นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งแตกต่างกับนักลงทุนประเภทแรก

การเลือกหุ้นปันผลเข้ามาในพอร์ตฯ
มีหลักการคัดเลือกอยู่เพียงไม่กี่ข้อ
โดยดูได้จากรายงานผลประกอบการ
ของบรรดา Listed Company ใน
ตลาดหลักทรัพย์จาก 
www.set.or.th

มีดัชนี 5 ตัวที่ต้องใส่ใจ
ROE, ROA ต้องเกิน 20%
P/ E, P/ BV ต่ำกว่า 10%
Dividend Yield เกิน 4% ชนะเงินเฟ้อ
เป็นอันใช้ได้
แต่ก็มีอีกหลายปัจจัย
ที่ใช้ประกอบการพิจารณา

ความหมายของดัชนีเหล่านี้
ไปหาอ่านกันเองได้ว่ามันคืออะไร

หากดูงบการเงินประกอบไปด้วย
ก็จะช่วยในการตัดสินใจได้มากขึ้น

ทั้งนี้หุ้นปันผลหลายตัวในตลาด
ถึงแม้จะมีผลประกอบการที่ดีในอดีต
ก็ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันว่าจะจ่ายปันผลทุกปี
การติดตามข่าวสารบริษัทมหาชน
ที่เราถือหุ้นอยู่ก็มีความสำคัญ
เพื่อการปรับพอร์ตฯ ให้ลงตัว
ซึ่งมักจะปรับเปลี่ยนกันปีละครั้ง
หรือ 2-3 ปีต่อครั้ง
ทั้งนี้ก็ขึ้นกับเกณฑ์ในการพืจารณา
ของรายบุคคลที่แตกต่างกัน

ถ้าจะให้ดีก็ควรจะเป็น
กิจการที่อยู่ในอุตสาหกรรม
ที่เรารู้จักดีหรืออยู่ในความสนใจ
จะช่วยให้ง่ายในการเฝ้าติดตาม

อีกปัจจัยที่สำคัญในการลงทุนก็คือเวลา
เราต้องถือหน่วยลงทุนให้นานพอ
ที่จะ Let Profit Run
หรือได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า
กับเงินที่ได้ลงทุนไป

ท่านที่สนใจก็หาอ่าน
ศึกษาเพิ่มเติมได้จากเพจ Common Rich
หรือช่องทางแนะนำการลงทุนอื่นๆ

ไม่มีใครเต็มใจช่วยให้เราร่ำรวยได้
เท่ากับตัวเราเอง

ขอให้โชคดี !


Comments

Popular posts from this blog

Time To Win

Initial Capital

Fund Raising for Investment